Your address will show here +12 34 56 78
article
เราหายตัวไปอีก มิใช่มีคาถาหายตัวหรอก หากไปงานหนังสือที่เชียงราย แล้วก็ล่อง (หน) ไปน่าน ไปทำงานน่า ไม่ได้หนีไปเที่ยวหรอก แต่น่าแปลกตอนนี้ คนรุ่นเจนใหม่ เริ่มหันมาสนใจ เรื่องเก่าเล่าไว้-กับ ‘คาถา’ ที่เขียนไปสนุกๆ เพราะเคยจำจากคุณยาย (คุณนายไข่มุก ตียัน ไม่ว่าคาถา) คนโบราณสวดมนตร์เก่ง และมักจะสอนลูกหลาน
.
แม้ได้ตุ๊กตามา ก็จะ ‘เสก’ ตุ๊กตาให้เป็นเพื่อนเล่น ทำให้ไม่แปลกใจที่เห็น ‘ตุ๊กตาเทพ’ ของยุคใหม่ แต่คาถาที่ใช้มักจะ
.
พระพุทธคุณณัง ธรรมคุณนัง สังฆคุณนัง
.
คือจะทำอะไร ต้องอาศัย คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสิ้น ฉะนั้นสำหรับคนที่สวดมนต์เป็นประจำ จะจำง่าย บางบทเราก็ร้อง ‘ตะโกน’ ล้อคุณยาย
.
โอมละลวย มหาละลวย ใครเห็นใครซวย
.
ก็จะโดนตี ฐานนำพระคาถามาพูดเล่น เพราะมนต์มหาละลวย มักขึ้นต้นแบบนั้นทั้งสิ้นหากเป็น มหาหลง (หลง หนักกว่าละลวย)
.
พระคาถา มหาหลง ก็ขึ้นต้นแบบเดียวกัน คือ
โอมหลงมหาหลง สาระพัดที่จะหลง ฯลฯ
.
ก็อีก…พอคุณยายหาอะไรไม่เจอ เราก็จะตะโกน โอมมหาหลง นี้แหละ ล้อคุณยายมีสารพัดคาถา พอล้างหน้าก็มีบทหนึ่ง ล้างปากอีกบท ล้างตาก็มี คาถาไม่ให้หูตึงก็มี (แต่คุณยายหูตึงหน่อยๆ)
.
‘ท่องไปทำไมยาย ?’
“สติ การรำลึกถึงพระ ตลอดเวลา จะทำให้มีสติ สัมปชัญญะ แล้วจะมีปัญญาเอง”
.
ก็น่าจะถูกต้อง เพราะเวลาจะท่องคาถา จิตจะต้องตั้งมั่น มีสมาธิ จึงจำได้ทั้งหมด
.
“จิตเป็นสมาธิอย่างเดียวแหละ ใช้ได้หมด ข้อสำคัญต้องมั่นในศีลด้วย”
.
ถ้าศีลไม่ครบ สมาธิก็ไม่มั่น แค่ นโมพุทธายะ แล้ว ทวนกลับยะธาพุทโมนะ อย่างเดียวใช้ได้หมด
.
หากเราชอบ ‘คาถาแปลกๆ’ มากกว่า สนุกดีเวลาท่อง คนทั้งบ้านรู้ทั้งนั้นแหละเช่นตื่นแล้ว เราจะสีฟัน เพราะ….ต้องเสก…คือตะโก
.
โอม สีฟันกู (ต้องกู จะฉัน ไม่ได้ ไม่ขลัง)
เหมือนแสงทอง
ฟันกูสามสิบสอง (ถึงฟันหัก ไม่ครบ ก็ไม่ได้)
ต้องครบเหมือนยังดาวบนเคหา
สาระพัน อยู่มิได้
ตามกูมา โอม…. สวาโหม
.
ที่นั่งอยู่ไม่ได้ คือบริวารคุณหะ-มา ที่พอเราตื่น มันก็วิ่งพรู มากินข้าวเช้ากะเรา ไม่รู้มัน เม็ตตาเรา หรือเราเม็ตตามัน (คนโบราณเขาต้องออกเสียง เม็ตตาอย่างนี้แหละ)
.
อยากได้คาถาอะไร จะบอกให้
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562
0

article
เมื่อเราจะเป็น ‘หมอขมังเวท’ (ต้องเขียน เวท. เพราะคัมภีร์ อาถรรพเวท เป็นคัมภีร์ท้ายสุดของ ไตรเพท คาดว่าจะหลังจากพุทธศาสนา ราว 700 ปี ) เราก็ต้องไปอ่าน Bible Satan (ต้องบอกอีกว่า ทางไทยเรียก ศรตาน คือ ตัวมาร ต่างกับ ปีศาจ) ทำให้เรารู้ว่า เราเข้าข่ายเป็น Wicce ได้ หากไปอยู่สมัย ศตวรรษที่ 17 – 18 คงจะโดน ‘ล่าแม่มด’ ไปแล้ว
.
การไปอ่านหนังสือ ประเภท ปีศาจวิทยา หรือ Encyclopedia Mythica ทำให้แปลกใจ และประเด็น
ไสยเวท ฝรั่งกับไทย เหมือนกันหลายประเด็น
.
ทางไทยเคยนับถือ เลข กับ พยัญชนะ เช่น ฦ ฦา ฤ ฤา ที่เราเลิกเขียนกันแล้วนั้น (เพราะออกเสียงไม่ถูก เลยเลิกเอาดื้อๆ เหมือนเราบอกว่า ฅน ต้องสะกดด้วย ฅอฅน. ไม่ใช่ คอ ควาย โบราณเขาจึงว่า ฅอ หยักๆ สักแต่ว่า คน แปลว่าเป็น..พวกไม่มีวัวปนเลย…เจ้าตัวโตมันสอนให้เรา ‘หล่า’ อย่างสุภาพ แปลเอาเอง)
.
คาถาขายของดี คือ ฦ ฦา ฤ ฤา นี่แหละ
เลยถามคุณยายว่า จะขายดีตรงไหน
คุณยายบอกว่า..อย่างเอ็งแหละ ท่องร้อยแปดจบ ก็ขายไม่ได้
.
ทางฝรั่งก็ถือตัวเลขเหมือนกัน ชาวแคลเดียนถอดรหัสของจักรวาลออกมาเป็น ตัวเลข และ พยัญชนะ โดย ถือว่า ระบบสุริยะ เริ่มเมื่อดวงอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตร ราวฤดูใบไม้ผลิ ตกในวันที่ 21 – 23 มีนาคม แล้วเคลื่อนตัวผ่าน จักรราศี จนครบ 12 ราศี ซึ่งตกราศีละ 30 องศา กินเวลา 1 ปี และแต่ละราศีมีดาวเจ้าเรือนครอง
.
ดาวทุกดวงจะส่งพลังออกมา (ชาวแคลเดียนรู้เหมือนๆ คนปัจจุบันรู้ว่า ดาวทุกดวงมีแรงโน้มถ่วง และ แรงส่งออก)
.
และได้แปลเป็น รหัสตัวเลขไว้
หากไม่เหมือนกับ โหราศาสตร์ของไทย
.
หมายเลขดาวของแคลเดียน อ่านพอรู้ก่อนนะ แล้วจะค่อยๆ เทียบต่อไป
0. คือดาวพลูโต มีอำนาจที่สุดในท้องฟ้า ครองเรือน พิจิก (พลูโต = ดาวพระยม)
1. หมายเลขประจำ ดวงอาทิตย์ ราศี สิงห์
2. ดวงจันทร์ ราศี กรกฏ
3. ดาวพฤหัส ราศี ธนู
4. ดาวยูเรนัส (มฤตยู) ราศี กุมภ์
5. ดาวพุธ ราศี เมถุน กับ กันย์
6. ดาวศุกร์ ราศี พฤษภ กับ ตุลย์
7. ดาวเนปจูน (เกตุ) ราศี มีน
8. ดาวเสาร์ ราศี มังกร
9. ดาวอังคาร ราศี เมษ
.
บอกแล้ว ชาวแคลเดียนให้ เลข. ไม่เหมือนที่เราคุ้นเคย และบอกว่า อิทธิพลดาวทุกดวงส่งออกมาในพลังแม่เหล็ก
.
อย่าง 0 พลูโต ที่ว่าว่างเปล่า
ถ้ามาใช้กับ 1 ที่เป็นแรง สุริย ตัวแทนแห่ง เหตุ ผู้สร้าง (พระอาทิตย์กำเนิดโลก)
ถ้า 1 เติมด้วย 0 มากเท่าใด จะได้อำนาจมหาศาลเท่านั้น
ถ้า 7 คือ กำลังของ จิตตานุภาพ
ถ้าเอา 1 ตามด้วย 0 กี่ตัวก็ตาม หารด้วย จิตตานุภาพ 7
จะได้เลข 142857.. 142857.. เป็นหมวดนี้เรื่อยไป (ลองดูนะ)
และถ้าบวก 142857 จะได้ 27 และ 2 + 7 = 9 (เนียะ เลข 9 จึงศักดิ์สิทธิ์ ไง)
.
ชาว แคลเดียน เค้าบอก เลข 9 คือตัวแทนของสรรพสิ่ง
คราวนี้ 9 x 1 = 9 , 9 x 2 = 18 , 1+8= 9 , 9 x 3 = 27 , 7 + 2 = 9 คูณเองต่อไปนะ
จน 9 x1 2 = 108 , 10 + 8 = 18 , 8 + 1 = 9 เห็นแมะเท่ากับ 9 อีก
.
และ 12 ราศีของโลก แต่ละราศีกินเวลา 2,160 ปี ลองบวกดูเอง (เท่ากับ 9 ใช่ไหม)
ถ้าครบ 12 ราศีจะเท่ากับ 25,920 ปีมนุษย์ บวกดูซิเท่ากับ 18 แล้ว 1 + 8 = 9
ถ้าครบ 12 ราศีเรียก Great Year เท่ากับ 1 ปีทิพย์ หรือ 1 ปีจักรวาล
.
เอกภพ คือ ทางช้างเผือกเราจะหมุนรอบตัวพอดี
แค่ปีของแคลเดียนก็สนุกแล้ว ต่อไปจะเล่าถึงพวก สุเมเรียน อีก รู้หรือเปล่า
.
ทำไมเราเป็น Wicce
คำนี้ภาษาโบราณแปลว่า นักพยากรณ์
และคำว่า shaman ก็แปลได้ว่า นักพยากรณ์ หมอผี
เราเคยถูกเรียกว่า เป็น ชามาน พิเธีย มาแล้ว จะเป็น Wicce (วิกซี) อีกก็ได้ (คล้ายๆ วิม – ลี นะ)
.
และเลขเหล่านี้ ยังมีแปลกๆ อีก
ศาสนาโซโรอัสเตอร์ บอกว่ามี ปีศาจ 3,333 ชนิด แบ่งเป็น 33 โขยง
(3+3+3+3 = 12 , 1+ 2 = 3 / 33 โขยง = 3 และ 3)
ใน Daemonum (1583) บอกว่า ปีศาจมี 666 โขยง แต่ละโขยงมี 6,666 ตน
(6+6+6 = 18 = 9 / 6+6+6+6 = 24 = 6 )
(9 = 3+3+3 , 6 = 3+3)
เลข 9 อันศักดิ์สิทธิ์ของแคลเดียน ก็ 3 + 3+ 3 นะ
ไทยเราก็ท่อง นโม ฯ 3 ครั้งด้วยไง เล่าต่อน่าอย่ากลัวจะไม่ได้อ่าน บันทึกของ Wicce
.
เวียนหัวไหม
เรา/
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562
0

article
ถ้าใครเคยอ่านหนังสือ ของอาจารย์ วิลักษณ์ ศรีป่าซาง. หรือเคยเห็นแม้แต่ปก เรื่อง คง เข้ม ค่าม ขลัง จะเห็น ‘แมงภู่.’ ยอดเครื่องรางของชาวไทใหญ่ และบัดนี้เป็นที่นิยมและหายาก ของชาวล้านนา.
.
กับถ้าสังเกตเครื่องรางชาวไทใหญ่ ตั้งแต่เด็ก (โดยเฉพาะ) ทหารไทใหญ่ จะมีเชือกผูกแมงภู่. ติดคอทุกคน แบบคนไทยภาคกลางแขวนพระเครื่อง
.
คนไทใหญ่เชื่อว่า แมงภู่. เป็นเครื่องรางชั้นยอด
เวลามีภัย แมงภู่จะบินมาให้เห็น หรือส่งเสียงให้ทราบ (ดังหวู่ๆ โดยไม่เห็นตัว.) (ภาคกลางเชื่อเรื่อง ตุ๊กแก หรือ จิ้งจักทัก)
ในพิชัยสงคราม เชื่อเรื่อง นกบินตัดหน้าธงชัย เฉลิมพล. (ต่อไปคงเล่าเรื่องพิชัยสงคราม)
กับแมงภู่ใช้ทำอาคมได้
.
เช่นเรื่อง พระลอ ปู่จ้าวสมิงพราย เสกสลาเหินเป็นแมงภู่ ไปตกลงบนพานสลาพระลอ จนต้องมนตร์เสน่ห์เพื่อน-แพ
.
แต่กรรมวิธีการทำ แมงภู่ มิใช่ท่อนไม้อะไรก็ได้มาแกะสลักได้
ไม้ที่ใช้เฉพาะ ต้องเป็น ดุมเกวียนเก่า (หมอคนแกะจะเลือกเอง.) และ ‘ประจุ’ ปรอทสำเร็จ ประจุอาคมได้ทีละกี่ตัว
ฉะนั้นแต่ละปี ไม่ค่อยหลุดมือ ออกไปยังคนภายนอก (คนไทใหญ่จองหมด.)
.
นอกจากไม้ดุมเกวียนเก่า ที่มี อิทธิ ที่สุดคือ งาช้างที่เป็น งากำจัด คืองาที่ช้างงัดต้นไม้ หรือหิน หักออกเอง (กำจัดออก เพราะบางทีงายาวเกินไป ในสมัยโบราณที่ยังไม่ไล่ล่าช้างเช่นทุกวันนี้.)
.
อาจารย์วิลักษณ์มีแค่ 2 ชิ้น
ทนเราอ้อนวอนไม่ได้ แบ่งให้เรา 1. ชิ้น
จึงมีคู่เดียวอยู่บนคอ 2 คน (ไม่ให้ใครอ้อนวอนแน่.)
.
และเราก็บอกอาจารย์วิลักษณ์ว่า ไปอ้อนวอน ‘ปู่จารย์.’ ไทใหญ่.ทีได้ไหม ขอ ‘เผื่อแผ่’ มาบ้าง รออยู่หลายปี กว่า ‘ปู่จารย์ใหญ่.’ จะยอมเผื่อแผ่ และ ‘เสก’ ด้วย อาคมของไทใหญ่ ส่งต่อ..ต่อ.. ต่อมาให้ (หลายต่อกว่าจะถึงมือเรา)
.
นอกจากเสก ประจุของขลัง ยังปิดทองคำ (แท้) อร่ามมาด้วย
.
เรา/.
उมยันติ่
(ปู่จารย์ คือ อาจารย์ผู้เฒ่าจ้ะ บางท่านแค่ ‘หนุ่มใหญ่’ ยังไม่เข้าขั้น ‘รู้’ เลยก็มี)
0

article
ก็อีก 2 วันแหละ (ขณะเขียน วันที่ 10 ตุลาคม) และการลงเฟสอาจจะล่าถึงวันที่ 11 ตุลาคมก็ได้ หมายความว่า แค่หนึ่งวัน อย่าเพิ่งบ่นว่า
…….แล้วใครจะไปทัน….
…….รู้น่า…ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็บอกล่วงหน้าแล้ว (แก้ตัวยังงี้แหละ)
.
บอกแล้ว วันที่ 12 ตุลา เป็น Vishnu Pooja วันสุดท้ายของปี ถัดจากพิธีนวราตรี และวันที่ 8 ตุลา เป็นวัน วิชัย ทัสมี แห่พระแม่อุมา ของวัดพระศรีอุมาเทวี สีลม นัก “ตามไปดู” คงได้ดูกันแล้ว
.
ฉนั้นวันที่ 12 ตุลา เราจึงจัดพิธีเทวาภิเษก แมลงภู่คำ และ “คุณตาพระราหู” ตามที่คุณๆ ทั้งหลายที่ไปยังเทวาลัยขานพระนามท่าน เรื่องแมลงภู่คำนั้น มีแฟนๆ จองเกือบหมดแล้ว ที่ยังพอมี (บ้าง) คือ คุณตาราหู
.
ตราพระราหู ชุดใหม่ เป็นดวงขนาดเหรียญสิบบาท
หนึ่งกล่องจะมี 2 ดวง ประกบกันได้
.
เพราะยันต์ด้านหลัง มีตรา สุริยประภา กับ จันทรประภา
(ที่เป็น ยันตร์กลับ หมดแล้ว)
.
ที่สร้างพระราหูขนาดห้อยคอได้ เพราะน่ารัก กับ เดือนตุลา – พฤศจิกา – ธันวา พระราหูยังสถิตเรือนเมถุนเป็น 3 กับลัคนาดวงเมือง (มฤตยู ยังทับดวงเมือง เพราะอยู่ 7 ปี) และพอธันวา เกตุ ( 9 ) จะเข้าร่วมราหู
.
เกตุ (9) เป็นท่อนร่างของพระราหู (8)
แปลว่า ท่าน..เต็มพระองค์
.
ปีนี้ คุณฟองสนาน จามรจันทร์ ยังไม่ออกหนังสือ โหรปี 63 เลย แต่ในปี 62 ท่านบอกว่า
.
เพราะมฤตยูยังครองลัคนา เมืองไทยและโลก
การเปลี่ยนแปลง ปฏิรูป ปฏิวัติ ปฏิสังขรณ์ จะกระจายไปทั่ว (โลก) และโรค
ดูแค่ ฮ่องกง ก็แล้วกัน
.
ท่านว่า ตามหลักของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร (อาจารย์ของเรา) เกณฑ์ทางโหรดาวสำคัญๆ จะโคจรร่วมราศีกัน เช่น พฤหัสจรร่วมราศีกับเสาร์จร เป็นการร่วมราศี ครั้งที่ 13 นับแต่วางเสาหลักเมืองมา
.
ปรากฏการณ์ของสิ่งแปลกๆ จะเกิดขึ้น
(รายละเอียด และดวงเมืองตอน 3 เดือนแรง จะเขียนต่อไป)
หากกระนี้แหละ ทำให้คิดสร้าง “คุณตาพระราหู” เล็กให้คล้องคอได้
.
เหตุที่เกิด ล้วนเขย่า ดวงทั่วเมืองไทย ตลอดจนโรค และโลก
(ได้ “ลาภเก่า” คือ โรคหวัดนก แต่รุนแรงมากขึ้นไง)
ถ้า ชะตาโลก ไม่ช่วย คงสาหัส
.
พระราหูคือ เงาโลก บอกแล้วท่านให้คุณอนันต์
(อย่าให้ร้ายนะ ร้ายมหันต์)
บูชาท่านไว้ ท่านจะได้ช่วยได้บ้าง
เราอยู่บนโลก แม้ตายจะเผา ฝังทิ้งน้ำ ก็อยู่ในโลก
คิดถึงบุญคุณโลกทุกย่างก้าว ผิดอะไร เผื่อจะได้มรดกไง
.
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่วันที่ 11 ตุลาคม 2562
0

article

.
จำแมลงภู่ที่เคยบอกว่า จะสร้างได้ไหม หากต้องรอ ‘ปู่จาร์ย’ ไทใหญ่แกะให้ก่อน ไม่ใช่จะแกะเองได้ และจะได้สักเท่าไหร่ก็อยากจะบอก ใครจะไปเร่งได้ล่ะ ตอนนี้ได้มาแล้วละ
ลองอ่านดูแล้วกัน แมลงภู่ไม้ดุมเกวียน(เก่า.) สร้างตามขนบไทใหญ่ จาก ‘ตำรา 5 ปะ’ น่ะ ยากแค่ไหน
.
ปะตง รูปแมลงภู่
ปะตา ปรอท
ปะต๊อก ไม้ประดู่แดง
ปะตอง นมล้อ,ดุมล้อ
ประตู่ ไม้มะเขือบ้า (ลำโพง)
.
คือตัวแมลงภู่จะแกะจากไม้ดุมเกวียน (เก่า) ที่ผู้แกะจะเลือกเอง ไม้เก่าน้ำหนักจะเบา ถ้าไม้สดน้ำหนักจะมาก ลองชั่งน้ำหนักในมือดูก็ได้ ไม้ที่แกะตัวแมลงภู่ คือ ปะตง การแกะต้อง ‘เป็นตัว’ คือมีขาครบ ปีกจะมีลายปีก พูดง่ายๆต้องเป็น ‘ตัว’ และ ‘ปลอดโปร่ง’ คือมีช่องสอดด้ายคล้องคอ (ถือกันว่า ทำอะไรจะปลอดโปร่งทุกอย่าง)
.
ปรอท ที่บอก คือ ปรอทธรรมชาติ ที่ช้อนจากแอ่งน้ำเน่า ‘จารย์จะเก็บไว้ทำ’ ของวิเศษ. แต่ที่เคยเห็นของ ‘อาเตีย-เซียนสู’ เป็น ‘ปรอทสำเร็จ’ คือเป็นก้อนแข็ง แวววาม และ สกัดพิษออกหมดแล้ว หาก ‘ดูดพิษ’ ออกมาได้ เคยเล่ารายละเอียดแล้ว จะไม่เล่าอีก
.
เตียเคยสอน บ้วย ติ้ก ลูกสาวเตียก็รู้วิธีทำ (ดีกว่าเรา ดีแต่ฟังสนุก)
หากทั้งสามคน ไม่ยอมทำ (เพราะเหตุใดก็เล่าแล้ว)
ปะต๊อก ปะตอง ปะตู่ (ใช้เป็นผง หรือชิ้นเล็กจิ๋วๆ ก็ได้) สำหรับใส่ไว้ภายใน
ฉะนั้นแมลงภู่ครบตามตำรา 5 ปะ ต้องเขย่าดัง
แบบเดียวกับพระกริ่ง
.
ข่าวดี
ปู่จารย์แกะส่งมาเทวาลัยแล้ว 191 ชิ้น
ลงรัก ทาชาด ปิดทอง (คำเปลวแท้)
ดมดูจะได้กลิ่นรักกับชาด ไม่ใช่กลิ่นสีแน่นอน. (กลิ่นรัก – ชาด จะหอม)
แต่จะรอ อธิษฐานจิต ประสิทธิมนตร์ โดย สังฆะ 4 รูป (จากน่านและเชียงใหม่) และปู่จารย์อีก 1 ท่านก่อน
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 62
จะทำพิธีลงอักขระมงคล ที่ล้านนาเทวาลัย (รายละเอียดจะแจ้งต่อไป)
.
ข่าวดีกว่านั้น
เราได้แมลงภู่ตัวจ่าฝูง แช่ว่าน ในกล่องไม้ตราราหูของเทวาลัยมา 2 ชิ้น
กับแมลงภู่ลงรักชาด (เก่าเก็บ) ในกล่องไม้ตราราหู 14 ชิ้น
ของรักของอาจารย์วิลักษณ์ ศรีป่าซาง
ลงอักษรมนตรา (เก่า) แล้ว
สวยจนไม่อยากจะปล่อย
ใครช้าอด ทั้ง 16 ชิ้นนี้ จะมี ‘ของแถม’
.
รออ่านรายละเอียดนะ
เรา/
เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562
0

article
แล้วฉันก็รู้..
ตระหนักรู้
.
รู้ .. กับ ตระหนักรู้ ..แยกจากกัน รู้ .. มาจาก สุ.จิ.ปุ.ลิ แต่ ‘ตระหนักรู้’ มาจากตัวทั่วพร้อมในสมาธิ ที่นำไปสู่วิปัสสนา. ทางปัญญา. สมาธิ.เป็นการสงบ ระงับ. ที่จะเป็นบาทต้นของ อิทธิ. ก็ได้ หากทางพุทธให้นำไปสู่ วิปัสสนา ทางปัญญาเท่านั้น
.
การ ‘รู้’ เล่นสนุก ไม่ก่อให้เกิดปัญญา.
จนกว่า ‘ตระหนักรู้’ แตกต่างกัน
ฉะนั้นจะเล่าเป็นตอนๆ แบบเคนเขียนในนิตยสาร
‘ อยาก.’ ที่ดีที่สุด คือ อยากตระหนักรู้
ลองอ่านไหม?
.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562
0

article
เคยบอกแล้วไง ทุก 2-3 เดือน เราต้องไปหาหมอตรวจ ‘ทุกขภาพ.’ จะเรียก สุขภาพ. ได้ไง เพราะ ถ้ามันสุข จะไปหาหมอทำไม และคราวนี้คุณหมอกิตติ. ก็บอกว่า
.
..เยี่ยม! ยังไม่ต้องใช้กัญชา..
.
เพราะเราตกลงกับหมอแล้วว่า ถ้าอาการเราถึงขั้นจะต้องใช้กัญชา ขอให้รีบบอก เราจะได้รีบใช้ เราเลยหงอยก๋อย ทำท่าโรคซึมเศร้า หากหมอก็ไม่สั่งกัญชาให้
.
เราไปคราวนี้ พอถึง ก.ท. หมอ วันเดียว ฝนก็ซัด แถ;ลาดพร้าวน้ำท่วมแบบในข่าวแหละ เจ้าตัวเล็กสุด (แต่สูงสุด เราเรียกมันว่า ผ.บ.สูงสุด) มันโทษเราว่า เพราะเราอยู่กรุงเทพ ฯ. น้ำเลยท่วม มันเห็นเราเป็นพระแม่คงคา
.
ก็ตอนมีน้ำท่วมใหญ่ แม่ก็อยู่บ้าน
พอแม่ไปเชียงใหม่ น้ำก็ลด…
.
ก็น้ำท่วม เราสนุกนี่ ตอนนั้นจัมโบ้. ลูกรักยังไม่ตาย เราเอามันใส่เรือท้องแบนแล้วลากเรือให้หมานั่ง ทุกบ้านเขาก็เล่นหยั่งงี้แหล่ะ เวลาน้ำท่วมบ้าน ที่เห็น ‘ขน.’ กันออกก่อนคือ หมา. กับหนังสือ สำหรับเรา หนังสือต้องอยู่ชั้นสองก่อน อย่างอื่นเอาไว้ทีหลัง แม้แต่เทวรูปบนตั่ง ที่เราแบกไม่ไหวเพราะท่านสูงขนาดเกือบเท่าคนจริงๆ เราก็กราบแล้วบอกว่า
.
..อย่าให้น้ำท่วมห้องนี้นะเจ้าคะ
ท่านต้องยืนแช่น้ำด้วย แบกไม่ไหวจริงๆ…
.
น้ำท่วมปริ่มธรณีห้องโดยไม่เข้าท่วมในห้องเลย เรากราบท่านอย่างโล่งใจ เพราะฉะนั้นและฉะนี้มันจะโทษว่าเราเป็นพระแม่คงคาได้ไง.
.
อ้อ…เกริ่นไว้ก่อน
เจ้าแก้ว มันชวนเราไปบ้านนอก (ของเมืองนอก.)
ไม่รู้ว่า วันที่ 12.ตุลา. จะทำพิธีได้แค่ไหน
‘น่าจะ’ ทำพิธีสรงภายใน เหมือนโสรจสรงมหาศิวะเจ้า
น่า..จะทำพิธี..ปลุกเสกเลขยันต์ ลงอาถรรพณ์เครื่องรางทุกอย่างได้…
.
แมงภู่ บินปรือ ตามขอไว้
ราหู ‘สุริย-จันทร์’ ได้ตามจำนง.
.
ยังไม่ได้กำหนดเวลาเดินทาง สำหรับเราเรื่องกิน เรื่องเที่ยว ว่างทุกเวลา แต่พวกทำงานและทำเงิน. มันต้องหาเวลา (ไม่เท่าไหร่) แต่หาเงินด้วย (มันยาก เพราะเศษซะกิด มันตกซะเก็ด.)
.
พวกอยากไปงานทำใจดีๆไว้
(ท่าจะ) ยุบหนอ (ไม่.) พองหนอ
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2562
0

article
ไม่ได้แปลว่า ยังไม่ตายหรอก แค่บอกว่า ยังไม่ได้พเนจร (จัด.) ไปไหน เพราะกลับจากภูฎาน. ก็ไปก.ท.หมอ กลับมาเชียงใหม่แล้วต่อไปน่าน ทู่ระน่าไม่ได้ไปเที่ยวเล่นหรอก
.
ไปน่านก็อยู่บนภูเขา คล้ายๆที่ภูฎาน
จนเจ้ายอดปรารภว่า ควรสร้างเทวาลัยที่น่านเสียอีกดีไหม
มันประชดเรา แต่ตัวเอง แค่เปลี่ยนกระเป๋าแล้วลอยละล่องไปจีน (ทู่ระอีก.)
คนบ้านเราจรจัดกันเสมอ จนเพื่อน (ที่มาคอยเราที่เชียงใหม่.) ถามว่า
“ทำไมอายุยืน?” มันคงคิดว่า เรามี ‘แฮง.’ ทำอย่างนี้ได้จะได อายุก็เข้าเขต ส.ว เป็นเองโดยไม่มีใครเลือก “ถ้าแกทำอย่างฉันจะอายุยืน เพราะท่านชายวสวัต. หาตัวไม่พบ.”
.
จำท่านชายวสวัต. ใน ‘เงา’ ได้ไหม ท่านดักหาตัวเราไม่พบ ไม่งั้นท่านลากตัวเราไปเลี้ยง ‘สูนัก’ ของท่านแล้วล่ะ เอาเรื่องท่านมาเขียนขายกิน ยังไม่ได้ชำระค่าลิขสิทธิ์ท่านเลย ดอกทบต้นคงเยอะแล้ว
.
พรรคพวกมอง ‘ของจากภูฎาน’ แล้วถามว่า ..แค่นี้เร้อ ..ครือที่เม้มเก็บไว้ไม่เอาออกโชว์ไง คอยก่อน..เอาไว้รวมกับของจาก (เบอร์ลิน) ดีไหม คราวนี้จะขับรถ ฝ่าเยอรมันตะวันออก ที่ไม่เคยทำเลย เพราะเยอรมันเคยแยกเป็นตะวันตก – ตะวันออก ต้องบินข้าม
.
เพื่อนที่เยอรมัน มันเยอรเผือกบอกว่า – มาเหอะ ของเก่าทางตะวันออกเหลือเยอะนะแก ..พวกบ้าของเก่า แต่เจ้ายอดไม่บ้าผู้หญิงเก่าๆ ต้องหมายมั่นปั้นมือว่า จะซื้อมาเก็บ พอตายคนได้มะริดกก็คงจะเอาออกขาย คอยซื้อแล้วกันนะ เราคงอยู่ไม่นานก็หมดแฮง ยอมไปเลี้ยงหมา ให้ท่านชายโดยดี (คือตายดี ไม่ตายเลวไง.)
.
เราหอบขน YAK. (จามรี.) มาด้วย ยังสังกะตังไม่ได้สางขน เรารู้แล้วทำไม ‘จามรีขนข้องอยู่ หยุดปลด’ และไม่ใช่เพราะ ‘ชีพบ่รัก รักยศยิ่งแล้’
.
แต่ขนยาวตั้งแต่หัวสันหลัง จรดหาง ไม่มีใครแปรงให้
เลยสังกะตัง ถ้าติดกิ่งไม้ มันต้องสะบัดจนหลุดออกเอง
และขนที่ซื้อมาเป็นของบนภูเขา จึงสังกะตังเป็นพวง.
.
จามรีจะอยู่บนภูเขาสูงตั้งแต่ 2,000 เมตรขึ้นไป โดยไม่เคยตกลงมาจากหน้าผาเลย (คุณบุญชู Chugang.) เขาบอกว่าเหมือนๆ ม้า (แคระ) หมา วัว ล้วนเดินเลียบหน้าผาหน้าตาเฉย เราไปยืนยังวูบๆ แต่ยังไม่ตกเหมือนกัน ถ้าตกจะกลับมาเล่าได้รื้อ แต่ตอนพรรคพวก ขี่ม้า (ไม่ใช่ม้าแคระ ม้าภูเขาตัวโต แต่ขาสั้น) ขึ้นภูเขาสูงกว่า 4,000 เมตร เราคอยที่ระดับ 4,000 เมตร (เพราะตรงนั้นมีตลาดนัดชาวเขาจริงๆ ไม่ใช่ชาวเรา.)
.
คนไทยที่พเนจรไปล่วงหน้า คงมีมาก
จนคนขายบอกว่า ..รับเงินบาทก็ได้ (คือจ่ายกันจนหมดตัว ที่นั่นแลกดอลล่าไปจะดีกว่า.)
นอกจากจามรี ที่เห็นขึ้น..ทั้งภูเขา..คือ กุหลาบพันปี. ที่ออกดอกทั้งปี เนื่องจากอากาศหนาว คุณบุญชู.บอกว่า หน้าหนาวจะสวยอีกแบบ เราถึงจะไปอีกไงล่ะ
.
ภูฎานสวยเหมือนสวิส.แต่ค่าเดินทาง กินอยู่ ถูกกว่าสวิส
คล้ายๆ ฤษีเกศ. ในอินเดีย ที่นัดกันแล้วว่าจะไป (ตรงนั้นคือจุด จุฬาตรีคูณ. )
คณะพเนจร (จัด.) ชอบแถบนี้เพราะ ‘เที่ยวราคาถูกกว่า’
จนคิดว่า อีกแห่งที่น่าไปคือ สิกขิม แต่ยังไม่คิดจะเลยเข้าอาฟกานิสถาน
.
หากที่คิดแล้วคิดอีกคือ เจ้ายอดชวนขับรถขึ้น ทิเบต เราน่าจะ ‘ซี้’ เสียที่ทิเบต ดีนะ ..ได้เผาศพที่สูงๆ ขึ้นสวรรค์ได้เร็วกว่า เป็นการย่นระยะทางไง ถึงแม้จะเที่ยว เราก็จะคิดถึง มรณานุสติ คาดว่าจะไปตายตรงไหน
.
การเที่ยวที่ภูฎานแบบเดียวกับประเทศไทย คือเที่ยววัด..วัด และวัด สวยและแปลกตาแบบวัด มหายานที่เราชอบโดยเฉพาะการหมุน วงล้อ โอม มณิเปเม ฮุง (โอม มณิปัทเม ฮุง.) กับเอาหินมาก่อเป็นสถูปเล็กๆ แปลว่าเราสร้างสถูป (เจดีย์.) ถวายพระพุทธเจ้า สถูปจะใหญ่จะเล็ก ทางมหายานสอนว่า ถวายแด่พระพุทธเจ้า 1. องค์เท่ากัน (วัดมหายานจะเห็นสถูปเล็กๆเต็มไปหมด.)
.
เพราะเราแต่งชุดขาวๆมั้ง (ก็มันมีอย่างนี้)
ตอนเดินสวดลูกประคำ กับหมุนกงล้อมนต์ (ใหญ่ สูง ราว 1. เมตร)
คนแก่ (อายุคงเท่าๆเรา แก่เหมือนๆกัน.) ที่นั่งอยู่ ฉุดชายเสื้อเรา
จับสายประคำไปจูบ (ไม้หอม.) แล้วมองหน้า (สวดอะไรให้ก็ไม่รู้.)
เราบอกตัวเองว่า ..ต้องบำเพ็ญตนเป็นคนดี ละเว้นบาปทั้งปวง..
เพราะเขาเห็นเราเป็นคนดี (คงไม่ ‘สวด.’ หล่า..) เราจะทำไม่ดีอีกได้อย่างไร (ก็คงไม่ดีจริงเท่าไหร่หรอกนะ)
.
บาปผิดที่ว่า ไม่ควรทำ คือมลทิน 9. ประการของมนุษย์ ได้แก่
มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิดเป็นชอบ.) ความโกรธ ความริษยา
การพูดปด การลบหลู่บุญคุณท่าน มายา (เจ้าเล่ห์.)
สาไถย (โอ้อวด) ตระหื่น ปรารถหนาลามก
ไม่นับ ศีล และธรรมทางพระเวทอีก 10 ประการ ที่คนอยู่เทวาลัย จะต้องระวัง (คือผิด เล็กๆ น้อยๆ น่ะ ไม่เป็นไร )
ไม่ใช่ เราต้องรักษาศีล (และธรรม) อย่างยึดมั่น ถือมั่น เอาเป็นเอาตาย
แต่ ศีล และ ธรรม คือกรอบที่เราจะไม่ก้าวล่วง
.
น่า.. จาก 12 ตุลาคม จะเริ่มบรรยาย “ปรัชญา”
จาก พุทธ-พราหมณ์ แถมผี. ด้วย
คอยอ่านกำหนดเวลานะ คงราวเดือนละครั้ง (เหมือนที่เคยทำที่วัดตูม อยุธยา)
ไหว้เทวดา. แค่ ขอพร เท่านั้น ฤา
จะไม่รับรู้หรือว่า ทางเทวะ ท่านสอน ศีล และธรรมประการใดบ้าง
เด็ก ‘วัดเทพ’ ควรเรียนนะ
.
แล้วจะเล่า
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่วันที่ 22 พฤษภาคม 2562
0

article
จะเป็นชื่ออาหารผักมากมายหลายชนิดมารวมกันก็ได้ หรือเป็นศัพท์ว่าชักเรื่องมากก็ได้ คือพอบอก ‘กลับมาแย้ว.’
พวกให้เล่าเรื่อง ภูฎาน.ก็มี
ผู้บอก ‘อย่าเพิ่งเล่า’ เอาของมาดูก่อนก็มี
พวกมหาเทพ ก็บอก ..เล่าให้ละเอียดก่อน ยังไม่รู้เรื่อง ก็มี
ตกลงอยากฟังทางไหน หรืออยากช้อป. ก่อนจ๊ะ
.
ฉนั้นจะนำรูปมาลงให้พอเป็นกระสายยาว่า ภูฎาน. สวยแค่ไหน (ภูฎาน.ได้ชื่อว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์ของตะวันออก) เวลาเขียนถึงจะได้นึกออก
.
กับวัดที่การก่อสร้างแบบทิเบต ในนิกายมหายาน (วัชรยาน.) กับพระพุทธมหายาน ที่สวยวิจิตรอลังการ
ซึ่งต่อไปบอกแล้วว่า จะค่อยๆอธิบายถึง พุทธมหายาน
ซึ่งมีข้อแตกต่างกับพุทธแบบหินยาน ที่ไทยนับถืออยู่
ทว่าจะ “แบบ” ไหนๆ ก็พระพุทธเจ้าเหมือนกันแหละ
สรรพสิ่งที่ เท. ออกจากกระเป๋าเดินทาง และขอเม้มไว้บ้างคือ
.
คัมภีร์พระธรรม ตัวเขียนภูฎาน แต่ไม้ประกับงดงามฝังหินสี (แพงจนฟังทีแรกสะดุ้ง แต่ก็ต่อจนคนขายใจอ่อน เห็นอยากได้จริงๆ)
.
กับกระดูกจามรี (YAK.) เขียน โอม ภาษาภูฎาน (ต่างกับอินเดีย.)
.
ขอบอกก่อนว่า ในภูฎาน. ไม่ฆ่าสัตว์ทุกชนิด แม้ยุง. แล้วจะเล่าว่าสัตว์เลี้ยงในภูฎาน ดู..ชิว..ชิว..อย่างไร ฉนั้นกระดูกจามรีได้จากจามรีที่ตายเอง
(จามรี – วัว – สุนัข ในภูฎาน. ไม่เคยตกเขาตาย-มันชิน มันยืนตามหน้าผาอย่างหน้าตาเฉย กินหญ้าสบายใจเฉิบ.)
.
กระดูกพวกนี้เป็นแผ่น โอม แบ่งให้ซื้อกันได้ (เม้มไว้แล้วน่า) แต่ ธงมนตร์. จะเอาไว้แขวนที่หน้าเทวาลัย ส่วนที่ห้อยคอ เป็น พระอวโลกิเตศวร ด้านหลังเป็นวัชรไขว้
สายสิญจน์ ไหมญี่ปุ่นได้มาจากลามะในวั
(ขายเยอะก็ไม่ได้ ได้มาเท่าที่เห็น)
.
อีกอย่างที่มีมากคือ ผ้าพันคอขนจามรี ขายข้างทางบนภูเขาเลย เพราะเวลาเที่ยวรถจะวิ่งอยู่บนสันเขา 1,200 – 2,400 และ 7 พันกว่าขึ้นไป ชาวบ้านขายของริมหน้าผา สนุกมาก
.
ยอดได้สายประคำ กระดูกจามรี(แท้) มาเส้นเดียว (นอกนั้นไม่แน่ใจ – ไม่ซื้อ.)
เราได้สายประคำ (ลามะ) มา 1. เส้น
.
ตอนนั้นไม่ค่อยมีอะไรให้ซื้อ กิน – เที่ยว. มากกว่า บอกแล้ว ‘คราวหน้า.’ จะกวาดมาเป็นกุรุสเพราะรู้แล้วว่า มีอะไรดี ขายตรงไหน ตอนนั้นพกไปพันดอลล่าห์. ไม่เหลือ (ซื้อแต่ของตัวเอง คนทั้งคณะก็หมดตัว หากหมายมาดกันว่า ..คราวหน้าต้องเอามามากกว่านี้.)
.
น่า..คราวนี้บอกกันแค่นี้ก่อนนะ
ยังมีของรอให้ช้อป. อีกระเบิดเบ้อ.
.
ป.ล.
งานที่น่าน เปิดเฟส 666 ปีวัดพระธาตุแช่แห้ง น่าน
ได้แล้วนะ มีฉบับเต็มที่เช้าและเย็นจ้
.
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562
0

article
บอกแล้วไง..ไปเที่ยวเดี๋ยวก็มา ..แล้วก็ไม่ได้ไปไกลอะไรนักหนา นั่ง ‘อากาศยาน.’ 3. ชั่วโมงก็ถึง ภูฏาน. (เราออกเสียง ภู – ตาน หากคนที่นั่น ออกเสียงคล้ายตัว ต. กับ ถ. ปนกัน สำเนียงเหมือนๆทิเบต.)
.
ขณะที่เมืองไทย ร้อนตับแลบ. (ทำไมตับแลบก็ไม่รู้ น่าจะสมองเหลวมากกว่า.)
สนามบิน พาโร (PARO) อยู่ราวๆ 20 องศา. กำลังสบาย
.
แค่สนามบินก็ตื่นเต้นกันแล้ว เพราะไม่ ‘ใหม่กิ๊ก.’ แบบสุวรรณภูมิ หากการตกแต่งภายในยังคงเค้าวัฒนธรรมภูฏาน. ด้วยสีแดงครั่งเป็นหลัก
.
แดงครั่ง คือ แดงปนดำแบบสีครั่ง (รู้จักไหม คนเดี๋ยวนี้ไม่รู้จักตัวครั่งแล้ว.)
ตัดกับสีเหลือง เขียว เป็นสี เอิร์ธ โทน ทั้งหมด.
.
คำว่า ภูฏาน (Bhutan.) มาจากภาษาสันสกฤต คือ ภู – อุฏฺฏาน แปลว่า แผ่นดินบนที่ราบสูง
เนื้อที่ของประเทศนี้ เท่ากับ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แพร่
6 จังหวัดภาคเหนือ มารวมกัน
พื้นที่ต่ำสุด สูงกว่าระดับน้ำทะเล ราว 300 เมตร ทางตอนใต้
และสูงสุดราว 7,000 เมตร (อยู่ติดกับหิมาลัยเลยล่ะ) ที่เราจะไปเที่ยวกัน
(กรุงเทพฯ. สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2 เมตร มั้ง)
.
ตอน.. อากาศยาน.. จะร่อนลง ได้เห็นยอดหิมาลัย. ขาวโพลน (ขนาดปีน อากาศร้อน หิมะบนยอดหิมาลัยที่ประทับมหาศิวะ หิมะละลายลงกว่า 1.เมตรแล้ว.)
.
การ Landing. นักบินจะ..ร่อน..ลงระหว่างหุบเขา
เป็นช่องระหว่างหุบเขาจริงๆ ต้องมืออาชีพ จึงจะร่อนเอียงซ้าย – เอียงขวา ลงได้
.
ที่เราเห็นนักบินสายการบินภูฏาน. เดินหน้าง่วงๆมาที่สุวรรณภูมิ เราบ่นกันว่า ..จะรอดหรือว้า ..มาตอนนี้ได้เห็นฝีมือจริงๆ การเที่ยวครั้งนี้ไปรวมกันของ สองสายครอบครัว คือทั้งครอบครัวเราและ ‘ ท่านแม่ยาย.’ เป็นคณะใหญ่ มีคนถาม…ไม่กลัวเหรอ ..พวกเราจะตอบว่า
.
ไม่กลัว ดีซิ..ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะไม่เหลือใครให้โศกเศร้าเหงาดายเลย แล้วก็มีคนห่วงสมบัติแทน พวกเราก็มีคำตอบ
.
ให้หลวงเข้าจัดการซิ จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจ เราไม่รับรู้
.
ยังงี้แหละ เราจึงแห่กันไปเที่ยวทุกปี. ยังเดินเที่ยวไหว ดีกว่านั่งรถเข็นไปน่า เจ้าแก้ว. คนกลางมันค่อนเราว่า ..อยู่เมืองไทย เดินไม่ไหว ขึ้นภูเขาสามสี่พันเมตร.เดินปร๋อ..
ฉันมันคนภูเขานะยะ (ภาษาทิเบตเรียก โภเทียส)
ก็วัดที่มีอยู่บนยอดเขาทั้งนั้น ..ไม่ปีนป่ายขึ้นไป จะได้หรือ..
.
แล้วจะเล่าถึง เมือง พาโร (โฉเก.) ให้ฟัง
อยากฟังป๊าว?
.
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562
0