article

หมอเวทย์

เราหายตัวไปอีก มิใช่มีคาถาหายตัวหรอก หากไปงานหนังสือที่เชียงราย แล้วก็ล่อง (หน) ไปน่าน ไปทำงานน่า ไม่ได้หนีไปเที่ยวหรอก แต่น่าแปลกตอนนี้ คนรุ่นเจนใหม่ เริ่มหันมาสนใจ เรื่องเก่าเล่าไว้-กับ ‘คาถา’ ที่เขียนไปสนุกๆ เพราะเคยจำจากคุณยาย (คุณนายไข่มุก ตียัน ไม่ว่าคาถา) คนโบราณสวดมนตร์เก่ง และมักจะสอนลูกหลาน
.
แม้ได้ตุ๊กตามา ก็จะ ‘เสก’ ตุ๊กตาให้เป็นเพื่อนเล่น ทำให้ไม่แปลกใจที่เห็น ‘ตุ๊กตาเทพ’ ของยุคใหม่ แต่คาถาที่ใช้มักจะ
.
พระพุทธคุณณัง ธรรมคุณนัง สังฆคุณนัง
.
คือจะทำอะไร ต้องอาศัย คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสิ้น ฉะนั้นสำหรับคนที่สวดมนต์เป็นประจำ จะจำง่าย บางบทเราก็ร้อง ‘ตะโกน’ ล้อคุณยาย
.
โอมละลวย มหาละลวย ใครเห็นใครซวย
.
ก็จะโดนตี ฐานนำพระคาถามาพูดเล่น เพราะมนต์มหาละลวย มักขึ้นต้นแบบนั้นทั้งสิ้นหากเป็น มหาหลง (หลง หนักกว่าละลวย)
.
พระคาถา มหาหลง ก็ขึ้นต้นแบบเดียวกัน คือ
โอมหลงมหาหลง สาระพัดที่จะหลง ฯลฯ
.
ก็อีก…พอคุณยายหาอะไรไม่เจอ เราก็จะตะโกน โอมมหาหลง นี้แหละ ล้อคุณยายมีสารพัดคาถา พอล้างหน้าก็มีบทหนึ่ง ล้างปากอีกบท ล้างตาก็มี คาถาไม่ให้หูตึงก็มี (แต่คุณยายหูตึงหน่อยๆ)
.
‘ท่องไปทำไมยาย ?’
“สติ การรำลึกถึงพระ ตลอดเวลา จะทำให้มีสติ สัมปชัญญะ แล้วจะมีปัญญาเอง”
.
ก็น่าจะถูกต้อง เพราะเวลาจะท่องคาถา จิตจะต้องตั้งมั่น มีสมาธิ จึงจำได้ทั้งหมด
.
“จิตเป็นสมาธิอย่างเดียวแหละ ใช้ได้หมด ข้อสำคัญต้องมั่นในศีลด้วย”
.
ถ้าศีลไม่ครบ สมาธิก็ไม่มั่น แค่ นโมพุทธายะ แล้ว ทวนกลับยะธาพุทโมนะ อย่างเดียวใช้ได้หมด
.
หากเราชอบ ‘คาถาแปลกๆ’ มากกว่า สนุกดีเวลาท่อง คนทั้งบ้านรู้ทั้งนั้นแหละเช่นตื่นแล้ว เราจะสีฟัน เพราะ….ต้องเสก…คือตะโก
.
โอม สีฟันกู (ต้องกู จะฉัน ไม่ได้ ไม่ขลัง)
เหมือนแสงทอง
ฟันกูสามสิบสอง (ถึงฟันหัก ไม่ครบ ก็ไม่ได้)
ต้องครบเหมือนยังดาวบนเคหา
สาระพัน อยู่มิได้
ตามกูมา โอม…. สวาโหม
.
ที่นั่งอยู่ไม่ได้ คือบริวารคุณหะ-มา ที่พอเราตื่น มันก็วิ่งพรู มากินข้าวเช้ากะเรา ไม่รู้มัน เม็ตตาเรา หรือเราเม็ตตามัน (คนโบราณเขาต้องออกเสียง เม็ตตาอย่างนี้แหละ)
.
อยากได้คาถาอะไร จะบอกให้
เรา/.
उมยันติ่
เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562