article

กงล้อแห่งธรรม​ (๒)

‘อะไรทำให้คุณ​ ไม่ใช่พุทธ’

เคยอ่านหนังสือ​เล่มนี้ไหม​ ของ​ ซองซาร์  จัมยัง​ เคียนเซ  ที่คุณ​ รวิวาร​ โฉมเฉลา​ แปล​ ท่านเป็นนักบวช​ ในนิกายวัชรยาน​ หากจะนิกายใดก็ตาม​ เรามีพระพุทธเจ้าองค์​เดียว​กัน​ คำสอนจากกระแสธรรมเดียวกัน​ ท่านกล่าวว่า​

‘ไม่พึง​เลื่อมใส​ บุคคลใด​ ยิ่งกว่าปัญญาญาณ

ที่มีอยู่ในคำสอนของบุคคล​นั้น’

ปัญญา​นั้นต้องมาจากจิตใจ​ อันประกอบด้วยความเห็นชอบ​ อันจะทำให้เราจะถือพุทธศาสนา​ คริสต์​ อิสลาม​ หรือจะอะไรก็ตาม​ ‘​ความเห็น​ชอบ’ หรือมโนคติถูก​ต้อง​ เราจะมี​พฤติกรรม​ถูก​ต้อง​ ฉนั้นจะนับถือ​ศาสนา​ใด​ ย่อมจะเป็น​คนดี

ลองไปหาอ่านดูเถอะ​ แล้วจะเข้า​ใจ​ ‘ตราธรรมทั้งสี่’​ ของท่าน

ชาวพุทธ​ในประเทศ​ไทย​ จะกล่าวถึง​ การเคลื่อนกงล้อแห่งธรรม​ ครั้งแรกเมื่อตรัสรู้​แล้ว​ คือ​ สัจธรรม​สี่​ หรือ​ อริยสัจ​ กับ​ ปฏิจจสมุปบาท​ (การเกิดขึ้นเพราะการอิงอาศัยกัน, หรือสภาพ​อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น)​ หากท่าน​ เคียนเซ​ ได้กล่าวถึง​ ‘​ตราธรรมทั้งสี่’​ คือ​

สิ่งอันประกอบด้วย​ ปัจจัย​ ทั้งหลายทั้งปวงไม่จริง​ (อนิจจัง)

ทุกข์​อารมณ์​ ทุกความรู้สึก​คือทุกข์​  (ทุกขัง)

สรรพสิ่ง​ปราศจาก​จากตัวตนที่เที่ยงแท้​  (อนัตตา)

นิพพาน​อยู่​เหนือ​ความคิด

ท่านบอกว่า​ อย่านำตราธรรม​ของท่านไปปะปนกับ​ อริ​ยสัจสี่​ (ทุกข์​ สมุทัย​ นิโรธ​ มรรค)​ ซึ่ง​กล่าวถึง​ทุกข์​ สาเหตุ​ และ​ การดับทุกข์​

ตราธรรม​ทั้งสี่​ จะครอบคลุม​กว่านั้น

หากเมื่อขึ้นเครื่อง​บิน​ และคนต่างชาติ​ ที่นั่งใกล้ๆ เห็นท่านครอง​จีวร​ ก็เลยถามถึง.. ‘ธรรม’.. ของท่าน (ท่านเคียนเซ​ เป็น​ชาวภูฏาน.)​ ท่านก็อธิบาย​ตราธรรมนี่แหละ​ จนจบก็ได้ยินเสียง​กรนจากผู้​ถาม​ (ท่านไม่ทราบ​ว่า​ เขาจะเข้​าใจถึงตอนไหน)​ หากชาวพุทธ​อย่างเรา​ จะเข้าใจใน​ อนิจจัง​ ทุก​ขัง​ และอนัตตา​ อันเป็น​ปัญญา​แรกสำหรับคน​นับถือ​พุทธ​ศาสนา

“ถ้าไม่เข้าใจ​ว่า​ อะไรทั้งหลายทั้งสิ้น​ทั้งปวงที่มาประกอบกัน

มันไม่จีรังยั่งยืน​ คุณ​ก็ไม่ใช่ชาวพุทธ”

อัตตา.​ คือ​ ตัวตน​ มันยั่งยืน​กระนั้น​หรือ​ (จิ๋นซีฮ่องเต้​ เคยส่งเด็กชายและเด็กหญิง​ อย่างละ​ 11​ คนไปหา​ ‘น้ำพุแห่งชีวิต’​ แต่ลงท้ายจิ๋นซีฮ้องเต้ก็สิ้นพระชนม์)​ อัตตา.​ จะเป็น​ อนิจจัง​ ไม่เที่ยง​แท้​ แค่วันวานและวันนี้​ อัตตาเราเอง​ ก็เปลี่ยน​ไป​ สิ่งใดที่เริ่ม​สร้าง​ “การผุกร่อน​จะเริ่มในวันนั้นคู่กันไปเสมอ

จากสิ่งใหญ่โต​ จนถึง​ส่วนที่เล็กสุด​ คือ​ ATOM.

นักวิทยาศาสตร์​กล่าวว่า​ ATOM.​ เองก็เชื่อ​ไม่ได้

(ATOM​ มีนิวเคลียส​ ประกอบด้วย​ นิวตรอน​ โปรตอน​ อิเล็กตรอน

สิ่งที่เล็ก​กว่าคือ​ ควาร์ก​ และ​ String กับ​ String​ ยังตัดลงได้อีก​ เช่น เส้นผมตัดเป็นแผ่นเรียก Brian

และโลก​ ก็เป็​น​ อนิจจัง​เช่นกัน

“ถ้าเชื่อแน่ว่า​ มี​ อมตภาพ​ มีมโนทัศน์​ เที่ยง​แท้​ ถาวร​ คุณ​ก็ไม่ใช่ชาวพุทธ.”

ข้อนี้ก็เช่นเดียวกัน​ ตามหลักของอนิจจัง​ คือแม้แต่​ มโนทัศน์​ของเราก็เปลี่ยน​แปลง​ได้​ หาก​ ‘ปัญญา’​  คือความรู้แจ้ง​กระจ่างขึ้น

เราเคยรู้ว่า​ คนสมัยก่อน​ เชื่อว่าโลก​แบน

บัดนี้​ดาราศาสตร์​ ทำให้เรา​รู้​ว่า​ โลก​กลม

เราเคยเชื่อว่า​ โลกตัน​ มีระดับแตกต่าง​จนถึง​ แกนโลก

ตอนนี้​ ทฤษฎี​โลกกลวง.​ เกิด​ขึ้น

มนุษย์​เกิดแล้วต้องตาย​ เทวดา​มิใช่​ อมร​ เสมอ​ไป​ (อ​ = ไม่​, มร​ = ตาย)​ เพราะ​มีเวลาจุติ (ตายแต่ไม่ทิ้งซาก​ ไม่มีเชื้อ)

“หากคุณ​ไม่เชื่อ​ว่า​ ทุกอารมณ์​ ทุกความรู้สึก​ คือทุกข์

หากคุณ​เชื่อ​ว่า​ คุณ​จะมีความรื่นรมย์​เสมอไป​ คุณ​ไม่ใช่ชาวพุทธ”

คุณ​เกิด​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ คุณ​ดู​ภาพในทีวี​ จะเห็น​การเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย​ ฆ่าและถูก​ฆ่าทุกวัน​ คุณ​เห็น​ข่าวการฆ่าทุกวัน​ คุณ​เห็น​โลกกำลังพังทลาย​ คนตา​ยเป็น​ล้าน​ด้วยเชื้อ​โรคที่มองไม่เห็น

มายา​ ความว่างเปล่า​ แสดง​อยู่​ต่อหน้า

จะการเมือง​ การปกครอง​แบบไหน

ระบบอย่างไร​ ท้าย​สุด​ ว่างเปล่า​ ที่ดำเนิน​ไปคือ​ มายา

เท่านั้น​เอง-ตถตา

ถ้ายังไม่เข้าใจ​ ใน​ อนิจจัง​ ทุก​ขัง​ อนัตตา​ สาระสำคัญ​ที่​ เจ้าชายพระองค์​หนึ่ง​ ทรงทิ้งทุกอย่าง​ แม้แต่พระชนม์​ หากทรงมิได้คำตอบ​

อะไรคือทุกข์?

แล้วจะ​ ‘วาง’​ ได้อย่างไร? จนว่างได้จริงหรือ?

สาระ​สำคัญ​ที่ชาวพุทธ​จะต้องรู้เช่นนี้

และเมื่อทรงสอนยังกล่าวว่า​ “อย่าเพิ่ง​เชื่อ​ หากจงไตร่ตรอง​เสีย​ก่อน” ท่านเคียนเซ ย้ำประโยค​ของพระพุทธองค์​ และจนถึง​บัดนี้​ ขอย้ำพระพุทธพจน์นั้น จงไตรตรอง

จะตราธรรมทั้งสี่ของท่านเคียนซา​ หรืออริยสัจสี่​ ล้วนบอกถึง​ ความไม่เที่ยง​ ที่แม้จะคิดว่า

.. เอาละ​ เมื่อฉันตาย​ โลกและสังคม​ จะเป็นอย่างไรก็ตาม

แต่ลูก-หลานฉัน​ ควรมีชีวิต​ที่ดี..

คุณ​แน่ใจนะว่า​ ลูก-หลานจะมีชีวิต​ยืนนาน​ ลูก-หลานจะเป็นเช่นที่คิด​ จะมีความร่ำรวยเช่นที่อยากให้เขา​ เป็น​เพราะเขาเองก็ต้อง.. อนิจจัง​ ทุก​ขัง​ อนัตตา… เท่านั้นเอง!

วันนี้คุณ​อาจจะเชื่อมั่นว่า​ ตัวเองศรัทธา​ในพุทธศาสนา

แล้วคุณ​เชื่อมั่นใน​ เทพเจ้า​ หรือเปล่า

ถ้าพบ​ คนทรงที่ทำนายทายทักแม่นยำ​ คุณ​จะศรัทธา​ไหม

ศรัทธา​ ก็​ต้องอาศัย​ เหตุ​ ปัจจัย

ไม่ศรัทธา​ ก็อาศั​ย​ เหตุ​ ปัจจัย

อะไรมี​ เหตุ​ ปัจจัย​ รวมกันย่อมเป็น​ อนิจจัง​ ท้ายสุด​ อนัตตา

ถ้าไม่มีอะ​ไร​เลย​ จะน่าเบื่อ​ไหม

แล้วการ​ ‘รู้แจ้ง’​ จะให้อะไร

คุณไม่ทุกข์​ ไม่สุข​ มีแต่ว่าง​ แล้วจะเป็นยังไง​ ไม่มีอะไรสักอย่าง​ แล้วจะ​ รู้​แจ้งไปทำไม​ พระพุทธ​องค์​สอนว่า

นั่นไม่ใช่​ ว่าง​ ไม่ใช่​ รู้แจ้ง

แต่มันคือ​ อวิชชา

อวิชชา​ คือ​ ความไม่รู้

รากเหง้า​ของ​ ปฏิจจสมุปบาท

ห่วงแห่งต้นเหตุ​ของเหตุและปัจจัย​ของชีวิต​

 ซึ่งพระพุทธ​องค์​จะทรงแสดง​ว่า

ปฏิจจสมุปบาท​ 12​ ห่วงแห่งชีวิต​ มีอะไร”

สิ่งที่เราคิดว่า​ ‘รู้’​ เป็น​อวิชชา​ มาจากอะไรบ้าง

เป็น​กงล้อแห่งธรรม

เราจะเคลื่อนตามวงล้อนั้น

เพื่อ​ ความเป็​นชาวพุทธ​ที่แท้

เราจะเดินตามรอยบาทแห่งพระองค์​